จากการสังเกต หลายครั้งที่สถาบันต่างๆจัดพิธีไหว้ครูขึ้น แล้วเกิดเหตุการเช่นนี้ ผลก็มาจาก - ในการจัดพิธีทุกครั้ง ไม่ได้เชิญพระสงฆ์ มาสวดเจริญพระพุทธมนต์ในพิธี ขณะที่กำลังประกอบพิธีของฝ่ายพราหมณ์อยู่ด้วย
โดยสมควรนิมนต์พระมาอย่างต่ำ 5 รูป
โดยคณะที่พรหามณ์เริ่มกล่าวบทบูชาบายศรี ก็ขอให้ พระท่าน นั่งภาวนาจิตต่อไปจนกว่า
ฝ่ายพราหมณ์จะประกอบพิธีเสร็จ
จากนั้นจึงขออารธนาให้พระคุณเจ้า สวดให้พร แล้วกรวดน้ำ เป็นอันเสร็จพิธี
- ในพิธีทุกครั้ง จะขาดผู้รู้อย่าง พราหมณ์ ไม่ได้โดยเด็ดขาดเพราะถือเป็นผู้กำกับพิธีอันศักสิทธิ์ตลอดทั้งงาน ซึ่งทำพิธีอยุ๋นั้น พราหมณ์ ก็จะบริกรรมพระคาถา กำกับพิธีอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้ สิ่งอัปมงคลเข้าทำลายพิธี
- การจัดพลีเครื่องเซ่นสรวงถวายเทพยดา ครบเต็มตามแบบแผน ถูกต้อง หรือไม่? เริ่มจากการจัดเครื่องสักการะพระพุทธปฏิมากรประจำสถาบัน อันนี้เชื่อว่าหลายท่านคงไม่ลืม ตามด้วย พระภูมิเจ้าที่ ต้องพลีอย่างถูกต้อง ครบเต็ม มีอณุโลมบ้าง ขึ้นอยู่กับพราหมณ์ผู้รู้ ต่อมาเป็นสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหมดทั่วทั้งสถาบัน ต้องไม่ลืมถวายเครื่องสักการะ แล้วจึงตามด้วยเครื่องเซ่น สัมภเวสี ผีทั้งหลายภายในโรงเรียน
- ต่อมา ไปในประลัมพิธี ที่จะกระทำพิธี ต้องมีบายศรีเทพ บายศรีนาค อย่างละคู่ ตั้งเคียงสองข้าง ที่ส่วนกลาง ต้องประกอบด้วยเศียร พ่อแก่ หรือเศียรเทพ ตามที่สถาบันพออัญเชิญมาเข้าพิธีได้
- ในขณะทำพิธี นักเรียน ชาย หญิง นั้งแยก คนละฝั่ง โดยให้นักเรียนชายนั่งใกล้กันกับ อาสนะพระภิกษุที่เชิญท่านมา และจะต้องมีพื้นที่ทางเิดินให้ท่านได้ ประพรมน้ำพุทธมนต์ ในคณะกระทำพิธี และในคณะที่ยังมีปรากฏเหตุ นักเรียนมีอาการแปลกๆขึ้นอีกด้วย
- ให้คระครูอาจารย์ทั้งหมด ดำรงค์สติอยู่ในสมาธิ ไม่ทำร้ายนักเรียนที่มีอาการแปลกๆ พยายามนำตัวนักเรียนออกมาจากพิธี หรืออารธนาพระท่านมาสวดคาถาและพรมน้ำพุทธมนต์ให้แก่นักเรียนที่มีอาการ
- ให้พินิจเอาไว้ว่า อาการแปลกๆเหล่านี้อาจเกิดจาก ความไม่พึงถูกต้องของการจัดพิธี ว่าอาจขาดอะไรไปบางสิ่งบางอยาก อาทิเช่น การกล่าวบทสวด หรือ ขาดการพลีถวายเซ่นไหว้อะไรบางอย่างไป และหรืออาจวางถวายไม่ถูกต้อง ทั้งนี้เพื่อป้องกัน ต้องไม่ลืมกล่าวคำขอขมาต่อสิ่งศักสิทธิ์ด้วยทุกที่
- เด็กบาคน อาจเป็นบุคคลผู้มีองค์เทพ เรียกทั่วไปว่า ร่างทรง(โดยไม่รู้ตัว)หรือรู้ต้อง ก็มีวิธีสักเกตที่อาการของเด็ก ถ้าหากเป็นเทพเทวดามาประทับร่าง เด็กก็จะมีอาหารแปลกๆแต่นิ่งอยู่กับที่ ไม่ดุดัน วิ่งไปมา หรือแหกปากโวยวายผิดปกติ ตรงนี้ต้องไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ โปรดมีสติด้วย เพราะว่าท่านอาจมาให้พรแก่ตัวของเด็กเองด้วย ให้ปล่อยไป แล้วสักพักเด็กก็จะกลับมาปกติเอง ไม่ต้องยุ่งกับตัวเด็ก - ข้อแนะนำ พึงเชื่อ ในด้านความเชื่อบ้าง ในส่วนของความเชื่อ เพราะเรื่องเหล่านี้ วิทยาศาสตร์พิสูจไม่ได้ ถึงจะมีคำตอบ แต่ก็เป็นตอบที่ฟังดูกำกลวม ไม่แน่ใจ ไม่แนนอน คือกล่าวไปตามหลักจิตวิทยา ในทำนองที่เป็นอาการทางประสาท บ้าง เป็นอาการผิดปกติอื่นๆบ้าง สุดแต่ที่จะพยายามหาคำตอบเพื่อให้จบเรื่อง
สุดท้าย ขอแนะนำให้จัดพิธี ไหว้ครูตามแบบเรียบง่าย ธรรมดา แบบนักเรียนกราบไหว้คุณครูก็พอ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆด้วย