พระองค์ยังทรงเป็น พระราชโอรสแห่ง พระสุริยะเทพอาทิตย์ กับเทพธิดาสัญญา
พระยายมราช นั้นทรงเป็นคนละพระองค์กับ ท้าวเวสสุวรรณ เหตุผลที่มนุษย์มักสับสนนั้น
เป็นเพราะ ทั้งสองพระองค์ มีพระวรกายสีแดงเช่นเดียวกัน และพระยายมราช
เมื่อทรงพระพิโรธโกรธมากๆ จะทรงมีพระลักษณะเปลี่ยนไปคล้ายกับ ยักษ์ ด้วยเหตุนี้
จึงทำให้มนุษย์บางท่านคิดว่า ท่านทั้งสองเป็นคนเดียวกัน
พระยายมราช หรือ ท้าวมหามัจจุราช นั้น ทรงมีพระิวิสัย อ่อนโยน เมตตาเต็มเปี่ยมล้นด้วย พระมหากรุณาธิคุณ
เป็นอันมาก มิใช่คนดุดันแต่อย่างไร
ในอดีตนั้นก่อนสมัยพระพุทธกาลจะเกิดขึ้น พระองค์ังทรงมีรูปลักษณ์ที่ดุดันน่าเกรงขามมาก
แต่ต่อมาเมื่อ พระพุทธเจ้า เกิดขึ้นแล้ว ภายหลังมาจนปัจจุบันนี้ พระลักษณะของพระยายม เปลี่ยนไป
เนื่องจากพระองค์ได้เอาพระทัยใส่ต่อการพระพุทธศาสนา
ทรงเลื่อมใสศรัทธามากในองค์ สมเด็จพระสัมมามัมพุทธเจ้า
กาลต่อมาไม่นานจึงทรงสำเร็จ บรรลุพระธรรม ได้เป็น เทพผู้สำเร็จ สกทาคามี
มีดวงจิตบริสุทธิ์เกือบเทียบ พรหมเทพ พระองค์จึงมีรูปลักษณ์ พระวรกายที่ งดงามมาก สมกับเทพบุตร
สายพระเนตรเจิดจรัสเป็นประกายสว่างไสวมีเมตตามาก ทรงเครื่อง และอาภรณ์ งดงามด้วยทองคำประดับเพชรนิลจินดามากมาย
พระรูปหล่อเหลาไม่ต่างอะไรกับพระอินทร์ เลยทีเดียว
ทรงประทับอยู่ในวิมานแก้ววิจิตรงดงาม มีพระราชพาหนะคือ พระกระบือทิพย์ลักษณะดีเพศผู้ 1
การสอบถามไตร่สวนหาความผิดของสัตว์โลกของพระองค์ นั้น ก็ยังเต็มไปด้วยพระวาจาอันสุภาพหนักแน่น
สมเอกบุรุษ ไม่มีถ้าทีโกรธเคืองผู้ใด ด้วยในพระทัยแห่งพระองค์ ใฝ่ให้สัตว์โลกได้สำนึกในความบาปความผิดที่ตนกระทำมา
ไม่หมายอยากจะทรมานสัตว์โลกทั้งหลายหากไม่จำเป็น และก่อนที่พระองค์จะต้องสั่งลงโทษสัตว์โลกนั้นๆแล้วตามความผิด
ก็จะทรงพระราชกระแสพระดำรัส ตรัสสอนธรรมโปรดสัตว์ก่อนด้วยทุกครั้ง ไป นี่เป็นส่วนหนึ่งในพระเมตตาของพระองค์ ซึ่งแท้จริงแล้วก็ยังมีอีกมากที่พระองค์ทรงบำเพ็ญช่วยเหลือสัตว์โลกทั้งหลาย