วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

"ร่างทรง" (คืออะไร) อินทรีย์เมฆารวบรวม



โดยเฉพาะสังคมไทยบ้านเราในเวลานี้ ที่กำลังถกเถียง ขัดแย้งกันทางความคิดกันอยู่ มาที่นี่เรามีคำตอบให้คุณได้เข้าใจกันง่ายๆ คำว่า ร่างทรง นั้น หมายถึง ร่างกายของมนุษย์ธรรมดา ที่อุทิศกายถวายทวยเทพยดาเพื่อร่วมกับพระองค์ในการมาโปรดสัตว์โลกอย่างมนุษย์ที่กำลังตกทุกข์หาทางออกไม่ได้ กับปัญหาในชีวิต ร่างทรง นั้นถือกำเนิดเกิดขึ้นมานานหลายพันปีแล้ว โดยเริ่มเผยแพร่วิชามาจาก ชมพูทวีปเป็นที่แรก ร่างทรงนั้นไม่ใช่ผู้ลิขิตชะตามนุษย์ ไม่ใช่ผู้บงการชีวิตมนุษย์ ไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดหรือทำลาย ทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เป็นไปนั้น เกิดจากแรงบารมีแห่ง เทพยดา เพราะเทวดานั้น ให้ได้ทั้ง คุณและโทษ นั้นเอง ถ้าทำไม่ดี ก็รับโทษ ถ้าทำดี ชีวิตก็ปลอดภัยไปด้วย ในพระพุทธศาสนานั้น สอนไว้ว่า เหล่าเทวดาและสัตว์โลกทั้งหลาย ย่อมเกื้อหนุน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หากขาดส่วนใดไปส่วนหนึ่ง ก็ย่อมขาดสมดุลความพร้อมทั้งมวล " ร่างทรง" ตามความเชื่อ ไม่บรรจุอยู่ศาสนาใด ศาสนาหนึ่ง ดำรงค์อยู่ในรูปแบบ ลัทธิ ทางธรรมะโปรดสัตว์โลก ร่างทรงนั้น ถือเป็นผู้ถูกเลีอกให้ได้รับหน้าที่จากเทวะ ไม่ใช่ใครจะได้รับกันมาง่ายๆ ร่างทรงนั้น สามารถได้บารมีจาก องค์เทพใดๆก็ได้ทุกศาสนา หากรักษาตนอยู่ในศีลหรือความดีเป็นนิจ เป็นผู้ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนคนโดยถั่วไป ไม่จำกัดว่าผู้เป็นร่างทรง จะต้องดูดี จะต้องรวยหรือจน ร่างทรงจึงมีอยู่ทั่วไป น้อยคนนักที่จะสังเกตรู้ได้ว่าพวกเขาคือร่างทรงองค์เทพ ร่างทรงที่บริสุทธิ์จริง มักไม่บอกให้ใครรู้ว่าตนเองคือร่างทรง ไม่ทำตัวโอ้อวด เรียกบังคับเก็บเงินไปทั่ว ไม่ฟุ่มเฟือย ใช้ชีวิตปกติทั่วไป นอกเสียจากว่าถึงเวลาที่จะต้องช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทางความเชื่อ จึงจะปรากฏตัวออกมาให้รู้ก็เท่านั้น สื่งที่ร่างทรงสามารถทำได้ก็คือ การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ที่ถูกเล่นงานจากผีสาง ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่โดนของทางอวิชชาหรือที่รู้จักกันดีว่า คุณไสยมนต์ดำ สื่อสารกับ เทพยดา เพื่อช่วยหาคำตอบให้กับเพื่อนมนุษย์ที่กระทำผิดต่อสิ่งศักสิทธิ์ หรือ เป็นตัวแทนเพื่อนมนุษย์เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา และทางความเชื่อต่างๆเป็นต้น
ร่างทรงบางท่าน อาจ ช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยการดูดวงแก้ชีวิตที่ดวงตก ทำดีไม่ขึ้นได้
ร่างทรงบางท่าน อาจ ช่วยเหลือมนุษย์ด้วยการ ชี้นำแนวทางการดำเนินชีวิตที่ดีกว่าได้อย่างดีเยี่ยม
 ร่างทรงบางท่าน อาจ เปลี่ยนสถานะการที่เลวร้ายให้กลายเป็นดีได้
ร่างทรงบางท่านอาจ ทำในสิ่งที่จะไม่เกิดขึ้น ให้เกิดขึ้นได้ด้วย
 ทั้งนี้ ย่อมขึ้นอยู่กับบารมีบุญของร่างทรงแต่ละท่าน และ มีวิธีช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ต่างกันไป หรือได้ไม่เท่ากันตามแต่การบำเพ็ญบุญของแต่ละคน เป็นต้น



หมาน เเอ็งเจิ้ล:
มีองค์ มีหลายแบบแบ่ง ใหญ่ๆ ได้ 2 อย่าง
1 เทพ เทวดา ฤาษี เทพเจ้าองค์ต่างๆ ท่าได้อย่างนี้แล้วก็ดีหรือเรียกว่าแท้ท่านคอยให้ความอนุเคราะห์ สงเคราะห์ลูกหลาย ทั้งรักษาโรค สอนธรรม และช่วยเหลือ สร้างบารมีเพิ่ม ดูง่ายพวกนี้อยู่ในศิล ในธรรม
2 มาร อสูรกายต่าง ผีตายโหง ปอบ ดวงจิตที่ไม่บริสุทธิ์ ดูที่ร่างอาศัยจะไม่สดใสโทรมลง 
การรับขันหรือขันธ์ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบที่ 2เป็นส่วนใหญ่ มาร

เท่าที่รู้มา ร่างทรง มีทั้งหมด ๕ ประเภท
ประเภทแรก คือ มาจากต้นไม้ใหญ่ หมายถึง เทพ หรือมหาเทพ ก็ดี แบ่งพลังงานลงมาเกิด เพื่อทำหน้าที่บางอย่าง หรือในรายที่เป็นพระโพธิสัตว์ อาจจะเป็นการชดใช้กรรม ที่ท่านไปช่วยเหลือสัตว์โลก ซึ่งถือว่าเป็นการเบี่ยงกรรมของสัตว์โลกผู้นั้น ถ้าใครเคยอ่านคำของสมเด็จโต ท่านเคยกล่าวไว้ว่า เมื่อเห็นสุนัขนอนอยู่ อย่าไปข้าม เพราะสุนัขตัวนั้น อาจเป็นพระโพธิสัตว์มาเกิด ซึ่ง เสมือนกับว่า ท่านอยู่กับบุคคลนั้น ตลอดเวลา ก็เหมือนกับลูกไม้ ตกลงจากต้นไม้ใหญ่ 
ประเภทสอง เป็นเพราะเทพมีกรรมร่วมกับคน ๆ นั้น ที่จะต้องสร้า้งบุญบารมี ร่วมกัน หรือช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แต่ไม่อยู่ประจำ อาจจะเป็นการแบ่งพลังงานส่วนหนึ่งมาคุ้มครอง
ประเภทที่สาม เป็นการที่คน ๆ นั้น เป็นร่างผ่าน เพื่อบอกกล่าวเรื่องราวบางอย่าง เพียงชั่วขณะ ซึ่ง เป็นเพราะจิตของคน ๆ นั้น อาจมีสื่อบางอย่างที่สามารถติดต่อกันได้ 
ประเภทที่สี่ เป็นพวกผี เปรต หรือ วิญญาณชั้นต่ำ อ้างชื่อเทพชั้นสูง สภาพร่างกายจะแย่มาก ทำแต่สิ่งไม่ไดี 
ประเภทที่ห้า เป็นพวกที่ร่างทรงอ้างเอง ไม่มีวิญญาฯใด ๆทั้งสิ้น 
ซึ่งพวกที่ สี่ และ ห้า จะมีเยอะมากในปัจจุบัน 

ผู้ที่คิดว่า ตัวเองมีอะไรแปลก ๆ แล้ว หรือ มีคนทักว่า มีองค์ ซึ่งส่วนมาก ผู้ที่ทัก ก็จะเอ่ยชื่อเทพชั้นสูงเสมอ ก่อนอื่น คุณต้องสำรวจตัวคุณเองก่อนว่า จิตของคุณคิดไปเองหรือเปล่า เพราะพวกที่มาทัก จะพูด หรือ ทำให้คุณเชื่อในคำพูดของพวกเขา เกิดอุปทานต่าง ๆ นานา ๆ ในที่สุด ก็จะหลอกให้พวกคุณรับขันธ์ ผมขอบอกเลยว่า คนส่วนมาก เกิดมา จะมีบุพกรรมเก่าติดตัวกันมาทุกคน บางคน อาจจะมีเทพคุ้มครอง บางคนอาจจะเป็นวิญญาณ บรรพบุรุษก็เป็นไปได้ คุณห้ามรับขันธ์เด็ดขาด เพราะตัวคุณเอง ก็มีขันธ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว ถ้าร่างหนึ่งมีขันธ์ถึงสองชุด จิตคุณจะรับไม่ไหว บางสำนักทรงถ้ามีความสามารถเรื่องไสยศาสตร์จริง ๆ พวกเขาจะส่งบางสิ่งมารังควานคุณ เพื่อให้คุณเดือดร้อน ต้องกลับไปหาพวกเขา ทางแก้ คือ คุณต้องเชื่อมั่นตัวเองเสียก่อน ว่า ร่างกายนี้ คุณมีสิทธิ์มากที่สุดในการถือครอง ฉะนั้น คุณต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง ข้อสอง คุณต้องประพฤติตัวในศีลในธรรม และหมั่นระลึกถึงพระรัตนตรัยเสมอ ข้อต่อมา คุณต้องปฎิบัติสมาธิ ในขณะที่คุณปฎิบัติ ต้องมีครูบาอาจารย์ คอยชี้แนะ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนจิตใจอ่อน ผมขอแนะนำเลยว่า อย่านั่งสมาธิคนเดียว โดยไม่มีครูบาอาจารย์สั่งสอน หรืออย่างน้อยที่สุด ก่อนปฎิบัติสมาธิทุกครั้ง คุณต้องระลึก และอัญเชิญพระสงค์ผู้ปฎิบัติดีมาเป็นครูบาอาจารย์ของคุณ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณต้องอัญเชิญและระลึกถึง คือ พระรัตนตรัย 







กฏการปฏิบัติตนของผู็้้้้้เป็นร่างทรงและคนมีองค์เทพคุ้มครอง
(ขอบคุณเว็บไซต์ องค์เทพ ดอมคอม และสื่ออื่นๆ)

๑ . งดหรือห้ามรับประทานเนื้อวัวควายตลอดชีวิต
๒ . ห้ามรับประทานเครื่องเซ่นบวงสรวงของคนอื่น (เครื่อง เซ่นบวงสรวง ของตัวเอง สามารถนำมารับประทานได้ครับ ของเซ่นไหว้บรรพบุรุษ หรือผีไม่มีญาติควรงดครับ เครื่องเซ่นที่ปักธูปดอกเดียว ควรงดครับ)


๓ . ห้ามรับประทานอาหารหรือของกินต่างๆในงานศพงานแต่งหากจำเป็นต้องไป ให้จุดธูปกลางแจ้ง ๑๖ ดอกบอกกล่าวขออนุญาติต่อองค์เทพ ที่ว่าไม่ควรกินอาหารที่งานศพ ด้วยเหตุว่า

๑. ไม่ทราบว่าสะอาดหรือไม่
๒. ถ้าไปงานแล้วอยู่ไม่กี่ชั่วโมง ให้ทานอาหารจากบ้านไปครับ
๓. ถ้าอยู่ช่วยงานทั้งวัน เวลาจะกินให้ตักไปกินนอกศาลาครับ ให้จุดธูปบอกกล่าวต่อเทพเทวาหรือพนมมือตั้งจิตอธิฐาน ว่ามีเหตุจำเป็นเพราะ ผู้ที่ล่วงลับเป็นญาติผู้ใหญ่ จำต้องร่วมงานและช่วยงานศพให้ลุล่วงด้วยดี เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตา
๔ . สวดมนต์เป็นประจำ ชีวิตจะรุ่งเรือง (ให้เปิดตาสวดมนต์ การนั่งสมาธิเพียงให้ใจสงบ ห้ามหักโหม)
มีข้อคิดเตือนใจ สำหรับ(ผู้ที่มีองค์เทพครับ) คือการครองเรือนครับ ข้อควรปฏิบัติดังนี้
๑. หากจะมีวันพิธีสำคัญเช่นไหว้ครูบูชาเทพประจำปี ประจำหิ้งบูชาตัวเอง ให้ลูกศิษย์ทุกท่านถือศีลให้บริสุทธิ์อย่างน้อย๒วัน ก่อนวันพิธีครับนับวันพิธีเป็นวันที่สามครับ
๒. ในระหว่างการไหว้ครู บูชาเทพที่หิ้งให้ รักษาระดับจิตใจ และอารมณืให้นิ่งและสำรวม
๓. ตั้งจิตอธิฐานถ้าจะมา ขอให้มาด้วยบุญฤทธิ์ มาด้วยบารมี มาด้วยสง่าราศรีครับ
๔. นอกเวลาการบูชา ขอให้ทุกท่านจงอย่าหลงติด คือสามารถใช้ชีวิตเป็นปกติเช่นคู่สามี-ภรรยาโดยทั่วๆไปครับ
๕. หากเป็นคู่สามี-ภรรยา ไม่อนุญาติให้แยกห้องนอนครับ
ความ อบอุ่น ความใกล้ชิดจะหายไปครับ ให้ใช้ชีวิตตามปกติครับ (กรณีที่ร่างนั้นยังอายุไม่มาก จะเห็นได้ว่า หากขาดผู้ชี้นำปัญหาการครองเรือนมักตามมาด้วยความไม่เข้าใจกัน ระหว่างสามี-ภรรยา)
๖. สำหรับการเปิดตำหนัก ผู้ที่เปิดตำหนัก การรักษาวินัยและศีลย่อมต้องเคร่งครัดกว่าธรรมดาครับ เพราะท่านไปยุ่งกับชะตาของผู้อื่น
๗. สำหรับเจ้าตำหนักควรยึดหลักสามประการให้เป็นหลักเกณท์ในการปฏิบัติ
๗.๑ ไม่รักลูกศิษย์ (มีความสัมพันฉันท์ชู้สาว) ส่วนมาก มักพบปัญหานี้เสมอไม่ว่าเจ้าตำหนักจะหนุ่มหรือแก่ ดังนั้น จงระวังกาย ใจ ไว้เสมอ(ปาราชิก,สังฆาทิเสส)
๗.๒ ไม่โลภเรียกร้อง เงินทอง
๗.๓ ไม่โกรธถ้ามีผู้แนะนำตักเตือน
ในท้ายที่สุด การบูชาเทพหรือปฏิบัติธรรม ขอให้ทุกท่านได้ ประพฤติ ปฏิบัติในลักษณะสายกลาง ไม่หักโหมแต่ให้ดำเนินไปโดยสม่ำเสมอและมีศรัทธา เชื่อมั่น ไม่สงสัย แค่นี้ก็เป็นสุขได้ครับ เอวังก็มีด้วยประการเช่นนี้...สาธุการ

สิ่งที่ควรมีในผู้เดินสายเทพ

๑. ควรมีสัมมาคาราวะ รู้จักให้เกียรติผู้อื่น
๒. ควรมีการรู้กาละเทศะ ว่าอะไรควรไม่ควร ของแบบนี้ไม่เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่ครับ
๓. ควรรู้จักการครองตน ไม่ใช่ว่าเรียนวิทยาคมไสย์เวทย์มาเก่งหรือปฏิบัติสายเทพมา ไปอวดอ้างหรือไปลองภูมิ ลองของคนอื่น เรียกว่าไม่ประมาณตน หากจะโปรดหรือช่วยผู้อื่นก็ขอให้เป็นไปโดยสุภาพชน ด้วยน้ำใจไมตรี

หลักแห่งการปฏิบัติที่พึงกระทำ
1.ย่อมไม่โอ้อวดตน
2.ย่อมไม่ละโมบ
3.ย่อมไม่อหังการ
4.ย่อมละทิฐิ
5.ย่อมมีเมตตาเป็นที่ตั้ง
6.ย่อมรู้จัก ละ ลด ปลด วาง
7.ย่อมไม่ขวนขวายในสิ่งอันมิชอบมาเป็นของตน


อคิดเตือนใจ สำหรับ(ผู้ที่มีองค์เทพครับ) คือการครองเรือนครับ ข้อควรปฏิบัติดังนี้๑. หากจะมีวันพิธีสำคัญเช่นไหว้ครูบูชาเทพประจำปี ประจำหิ้งบูชาตัวเอง ให้ลูกศิษย์ทุกท่านถือศีลให้บริสุทธิ์อย่างน้อย๒วันก่อนวันพิธีครับนับวันพิธีเป็นวันที่สามครับ
๒. ในระหว่างการไหว้ครู บูชาเทพที่หิ้งให้ รักษาระดับจิตใจ และอารมณืให้นิ่งและสำรวม
๓. ตั้งจิตอธิฐานถ้าจะมา ขอให้มาด้วยบุญฤทธิ์ มาด้วยบารมี มาด้วยสง่าราศรีครับ
๔. นอกเวลาการบูชา ขอให้ทุกท่านจงอย่าหลงติด คือสามารถใช้ชีวิตเป็นปกติเช่นคู่สามี-ภรรยาโดยทั่วๆไปครับ 
๕. หากเป็นคู่สามี-ภรรยา ไม่อนุญาติให้แยกห้องนอนครับ
ความอบอุ่น ความใกล้ชิดจะหายไปครับ ให้ใช้ชีวิตตามปกติครับ (กรณีที่ร่างนั้นยังอายุไม่มาก จะเห็นได้ว่า หากขาดผู้ชี้นำปัญหาการครองเรือนมักตามมาด้วยความไม่เข้าใจกัน ระหว่างสามี-ภรรยา)
๖. สำหรับการเปิดตำหนัก ผู้ที่เปิดตำหนัก การรักษาวินัยและศีลย่อมต้องเคร่งครัดกว่าธรรมดาครับ เพราะท่านไปยุ่งกับชะตาของผู้อื่น

๗. สำหรับเจ้าตำหนักควรยึดหลักสามประการให้เป็นหลักเกณท์ในการปฏิบัติ
      ๗.๑ ไม่รักลูกศิษย์ (มีความสัมพันฉันท์ชู้สาว) ส่วนมาก มักพบปัญหานี้เสมอไม่ว่าเจ้าตำหนักจะหนุ่มหรือแก่ ดังนั้น จงระวังกาย ใจ ไว้เสมอ(ปาราชิก,สังฆาทิเสส)
      ๗.๒  ไม่โลภเรียกร้อง เงินทอง      ๗.๓  ไม่โกรธถ้ามีผู้แนะนำตักเตือน    ในท้ายที่สุด การบูชาเทพหรือปฏิบัติธรรม อาจารย์หมอยา ขอให้ศิษย์ทุกท่านได้ ประพฤติ ปฏิบัติในลักษณะสายกลาง ไม่หักโหมแต่ให้ดำเนินไปโดยสม่ำเสมอและมีศรัทธา เชื่อมั่น ไม่สงสัย แค่นี้ก็เป็นสุขได้ครับ เอวังก็มีด้วยประการเช่นนี้...สาธุการ
 ๖ . ควรมีประคำประจำกายอย่างน้อย ๑ เส้น จะเป็นแบบใดแล้วแต่องค์เทพฃองแต่ละท่านครับ . หากท่านตรวจพบว่ามีหรือถูกทำนายทายทักว่า มีให้ไปตรวจอีกหลายๆที่จนแน่ใจว่าชัดเจนจึงจะดีครับ  

สำหรับผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ตามกฏหมาย ควรมีผู้ปกครองชี้แนะเพราะ เจ้าชะตาอายุยังน้อยอาจตัดสินใจหรือรับขันธ์ทั้งที่ยังไม่พร้อม หรือไปรับขันธ์ผิดได้ครับ ด้วยทั้งยังขาดวุฒิภาวะ ประสบการณ์ชีวิต วิสัยทัศน์ และหลงตนเองว่ามีฤทธิ์มีเดชไปเที่ยวลองของผู้อื่น


1.ย่อมไม่โอ้อวดตน
2.ย่อมไม่ละโมบ
3.ย่อมไม่อหังการ
4.ย่อมละทิฐิ 5.ย่อมมีเมตตาเป็นที่ตั้ง
6.ย่อมรู้จัก ละ ลด ปลด วาง
7.ย่อมไม่ขวนขวายในสิ่งอันมิชอบมาเป็นของตน
 คนมีองค์หรือเป็นเจ้าตำหนัก หากถามเข้ามาจะดูง่ายครับ.. เพราะวาสนาจะลอยเด่นครับ... และผู้มีองค์เทพถึงระดับเปิดตำหนักก็มักจะมาดีและถามเป็นการเป็นงานครับ.. เพราะรู้ว่าของทุกอย่างก็มีครูเทพเทวาทั้งสิ้น... จึงควรให้ความเคารพครับ.. และทุกท่านก็ประจักษ์แก่ใจตนเองความศักดิ์สิทธิ์มีจริง และรับรู้ได้แก่ผู้เป็นร่างทรงแล้วทั้งสิ้น.....





-สองกุมาร ช่วยเด็กหลงป่า

                    

                     ศาลเจ้าหน่าจา แจกวีลแชร์ ช่วยเหลือผู้พิการ


            เชื่ออัศจรรย์จุดธูปปลุก "พญานาค" กั้น "นครปากเกร็ด" รอดน้ำท่วมใหญ่!