วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เป็น ทหาร ดีกว่า ไม่เคยเป็น ทหาร(อินทรีย์เมฆาเรียบเรียง)



     เมื่อพูดถึง คำถามที่ถามว่า " ได้อะไรบ้างจากการเป็นทหาร"คำตอบ ที่ต้องการนั้นคงไม่ได้หมายถึง ได้ คอมแบท ได้ชุดพราง ได้ตัดหญ้า คงไม่ใช่คำตอบที่ดูจะเป็นสาระ ก็คงหมายถึง การได้รับความนึกคิด ใคร่่ควรอันเป็นผู้ใหญ่เพิ่มมากขึ้น จากที่มีใจเร้าร้อน ก็กลับกลายเป็นคนรู้จักบังคับอารมณ์ร้อนนั้นได้ นอกจากนี้ คุณเองจะได้เรียนรู้ด้วยความสำคัญในหน้าที่ซึ่งตนจะต้องรับผิดชอบ ที่สามารถช่วยก่อให้เกิดสมาธิและความใส่ใจแก่สิ่งที่กระทำอยู่ พร้อมด้วยช่วยให้ตนได้เข้าใจถึงนัยยะของคำว่า สามัคคีเป็นหมู่เหล่า ย่อมก่อให้เกิดความสำเร็จพร้อมเพรียง ที่สำคัญ ความรัก ความเห็นอกเห็นใจผองเพื่อน ก็ปรากฎตามมาด้วยนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่หมายถึง " สิ่งที่ได้รับ จากการเป็นทหาร " " เป็น "ทหาร" ได้อะไร
มากว่า "ที่คิด" จริงหรือไม่?
 


วันแรก เมื่อคุณก้าวเข้าไปสู่รั่วกองทัพ สิ่งแรกที่คุณต้องสัมผัสก็คืิออารมณ์ที่แสดงออกถึงความรู้สึกหวาดหวั่นต่ออนาคตของคุณที่นี้ ว่าคุณจะมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรในนี้ อย่างไรก็ตามมันคือจุดแรกแห่งบททดสอบจิตใจถึงความแข็งแกร่ง ว่าคุณจะเป็นลูกผู้ชายที่มีความอ่อนไหว มาก น้อย แค่ไหนต่อสิ่งที่คุณได้ประสบ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีอย่างหนึ่งในการเสริมสร้างจิตวิญญาณของนักสู้ภายในจิตใจคุณ ที่จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคน้อยใหญ่ในชีวิตได้อย่างไม่ย่อท้อ ทีนี้พูดถึงสิ่งที่ได้รับจากการฝึกภายในสามเดือน นั่นหมายถึงความเปลี่ยนแปลงทางวินัยของนิสัยในการดำรงค์ชีวิต กินเป็นเวลา นอนเป็นเวลา อาบน้ำเป็นเวลา ซึ่งช่วยทำให้คุณเข้าใจและยอมรับถึงความจำเป็นของหน้าที่ ความสำคัญของเวลา มากยิ่งขึ้น และคือสิ่งที่จะต้องกระทำสม่ำเสมอทุกๆวันอันจะช่วยให้อนาคตของคุณราบรื่น เมื่อคุณนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันต่อไปอยู่มิขาด ทั้งยังจะเป็นเยี่ยงอย่างที่ดีแก่ลูกหลานอีกด้วย ตู้เตียงจัดเป็นระเบียบ แม้แต่ข้าวของใช้ส่วนตัวก็แป๊ะ ต้องรักสะอาดมากขึ้น ปัดกวาด เช็ดถู ทุดวัน เช้า ค่ำ รู้บ้างหรือไม่จุด จุดนี้ คือส่วนสำคัญในการเสริมสร้าง สมาธิ ให้กับคุณได้เป็นอย่างดี เมื่อมีความจดจ่อ ตั้งใจในสิ่งที่กระทำ ก็ย่อมบังเกิดผลสำเร็จเรียบร้อย ปราศจากการแก้ไขในภายหลัง " สมาธิ " นั้นมีบทบาทสำคัญมากในการดำรงค์ชีวิต เพราะสมาธิคือบ่เกิดแห่งสติปัญญา อันก่อให้เกิดความก้าวหน้า ซึ่งอีกมุมหนึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เด็กๆสมัยใหม่ ไม่ค่อยเอาใจใส่ในการทำความสอาดดูแลบ้าน อันมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างปัจจัยดังกล่าวด้วยอย่างยิ่ง และเหตุผลที่เด้กไม่เอาใจใส่เรื่องนี้ คงต้องย้อนกลับมาเตือนผู้ใหญ่อีกครั้ง ให้อย่าลืมว่า แม้ เด้กคืออนาคตของชาติ แต่ทว่า ผู้ใหญ่เอง ก็คือ อนาคตของเด้ก ถ้าผู้ใหญ่เป็นยังไง เด็กก็คงเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน เรื่องนี้อย่าลืมอีกว่ามีผลกระทบต่อสภาพสังคมส่วนใหญ่ด้วย เมื่อเพื่อนผิด เราก็ผิดด้วย เมื่อผิดหนึ่ง ก็ต้องรับโทษร่วมกันทั้งหมด แม้มิได้เป็นผู้ก่อ ตรงนี้ค่อนข้างกินใจมาก เพราะนั้นหมายถึง ความสามัคคี ในขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างความกระตือรือล้นภายในหมู่คณะ ว่าเราจะต้องไปด้วยกันได้ทั้งหมดอย่างพร้อมเพรียงและเต็มใจ ถึงแม้ว่าอาจจะเต็มไปด้วยความกดดัน แต่ก็เป็นความกัดดันที่จะก่อประโยชน์ ก่อให้เกิดการพัฒนาไปในทางที่ดี ไม่ทิ้งใครคนใด คนหนึ่งไว้ข้างหลัง มันคือความเอื้อเฟื้อ ไม่มีการแบ่งแยก มันคือความสามัคคี ที่ไม่มีใครชิงเด่น เห็นแก่ตัว ซาบซึ้งถึงคำว่า เพื่อน ลึกซึ้งในความเป็น ลูกผู้ชายชาตรี การเป็นสุภาพบุรุษ ที่คุณเคยได้ยินมาตั้งแต่ยังเล็กๆเป็นยังไง คำตอบอยู่ที่นี้ คำว่า " ทหาร "  

( โทษการหลีกเลี่ยง เกณฑ์ทหาร และ พฤติกรรมอันต่ำขาดจรรยา) แม้ว่าจะเป็นความผิดตามกฎหมาย แต่มีขบวนการทำการสนับสนุนให้ผู้เป็นทหารกองเกินหลบเลี่ยงการรับราชการทหารกันอย่างแพร่หลาย โดยสัสดีอำเภอเป็นตัวการสำคัญ โดยมีวิธีการต่างๆ ดังนี้ การปลอมใบรับรองผลการตรวจเลือก สด. ๔๓ การให้ระบุในใบตรวจร่างกายว่าเป็น
มีความผิดปกติทางร่างกาย (ดี 1 ประเภท 2) จึงไม่ต้องไปจับใบดำใบแดง การย้ายสำมะโนครัวและภูมิลำเนาทหาร ไปยังอำเภอที่มีคนสมัครเป็นทหารเต็มแล้ว

 สำหรับวิธีการตามข้อ 1 นั้น จะไม่ปรากฏต้นขั้วที่กระทรวงกลาโหม เมื่อมีการตรวจสอบก็จะพบว่าบุคคลนั้นหนีทหารและถูกดำเนินคดีได้

ส่วนวิธีการในข้อ 2-3 เป็นการใช้ช่องว่างของกฎหมายและข้อมูลภายในที่สัสดีมีอยู่ ผู้ผ่านการตรวจเลือกจะได้รับใบตรวจเลือกของจริง ถูกต้องตามกฎหมาย ตามข่าวที่ปรากฏในปี พ.ศ. 2547พบว่าสัสดีเรียกรับเงินจากผู้ไม่ต้องการรับราชการทหารเป็นหลักพันบาทสำหรับวิธีการในข้อ 1 และหลักหมื่นบาทสำหรับวิธี

การในข้อ 2-3 นอกจากนี้ยังมีผู้ที่หลบหนีไม่เข้ารับการตรวจเลือกซึ่งมักจะถูกสัสดีแจ้งความดำเนินคดี ผู้ที่หลบหนีนั้นต้องรอให้พ้นจากอายุที่ต้องรับราชการทหารคือ 30 ปีและรอให้คดีความหมดอายุความก่อนจึงจะกลับมาปรากฏตัวต่อสาธารณชนได้ มิฉะนั้นอาจถูกจับกุมและดำเนินคดีได้ อายุความในดคีหนีทหารทั่วไปมีกำหนด 10 ปี การทำร้ายร่างกายตัวเองหรือผู้อื่นเพื่อไม่ให้ต้องรับราชการทหารมีระวางโทษจำคุกหนึ่งปีถึงแปดปี เป็นโทษที่หนักที่สุดในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร และเป็นโทษเดียวในพระราชบัญญัตินี้ที่มีอายุความถึง 15 ปี ทหารกองเกินซึ่งถูกเรียกต้องมาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกตามกำหนดหมายนั้น ในวันตรวจเลือกนั้นนอกจากหลักฐานทางทหารและบัตรประจำตัวประชาชนแล้วให้นำหลักฐานการศึกษามาแสดงด้วย ผู้ใดหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกหรือมาแต่ไม่อยู่จนกว่าการตรวจเลือกแล้วเสร็จเพื่อรับหลักฐานใบรับรองผลการตรวจเลือก (สด. ๔๓) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี ผู้กระทำความผิดตามข้อนี้นี่เองที่มักเรียกกันว่า หนีทหาร  

( การเกณฑ์ทหารของราชอาณาจักรไทย ) ชายที่มีสัญชาติไทย เมื่ออายุย่างเข้า 18 ปี บริบูรณ์ในพุทธศักราชใด ต้องไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินภายในพุทธศักราชนั้น ที่อำเภอท้องที่ที่มีภูมิลำเนาอยู่โดยจะได้รับใบสำคัญ สด. ๙ เมื่อลงบัญชี ณ อำเภอใดแล้ว อำเภอนั้นจะเป็นภูมิลำเนาทหารของทหารกองเกินผู้นั้น ภูมิลำเนาทหารเป็นภูมิลำเนาเฉพาะไม่เกี่ยวข้องกับทะเบียนบ้านหรือสำมะโนครัว การจะย้ายภูมิลำเนาทหารต้องกระทำที่อำเภอแยกต่างหากจากการย้ายภูมิลำเนาตามทะเบียนราษฎร์ ทหารกองเกินที่ย้ายทะเบียนราษฎร์จะย้ายภูมิลำเนาทหารด้วยหรือไม่ก็ได้ แต่มีหน้าที่แจ้งต่อนายอำเภอทุกครั้งที่ไปอยู่ต่างถิ่งเป็นเวลาเกินกว่า 30 วัน หากไม่แจ้งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินสองร้อยบาท ภูมิลำเนาทหารมีความสำคัญต่อทหารกองเกินอย่างมากเพราะเป็นสถานที่ที่ทหารกองเกินต้องไปรับการตรวจเลือก ในแต่ละท้องที่ก็มีจำนวนทหารกองเกินและความต้องการของฝ่ายทหารที่กำหนดมาต่างกัน การอยู่ในภูมิลำเนาทหารที่ต่างกันจึงมีผลต่อการตรวจเลือกเข้ารับกองประจำการ และเป็นช่องทางให้มีผู้หลีกเลี่ยงการเป็นทหารใช้หลบเลี่ยงไปได้ ทหารกองเกินเมื่อมีอายุย่างเข้า 21 ปี ในพุทธศักราชใด ต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกที่อำเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตนภายในพุทธศักราชนั้น โดยจะได้รับหมายเรียก สด. ๓๕ ทหารกองเกินซึ่งจะถูกเรียกมาตรวจคัดเลือก เพื่อเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการนั้น ต้องมีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป แต่ยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์ ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ขึ้นบัญชีทหารกองเกินหรือไม่มารับหมายเรียกต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าก่อนที่เจ้าหน้าที่ยกเรื่องขึ้นพิจารณาความผิด ผู้นั้นได้มาขอลงบัญชีทหารกองเกิน หรือ มารับหมายเรียกแล้ว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นักศึกษาวิชาทหารที่สำเร็จหลักสูตรชั้นปีที่ 3 แล้ว ให้ขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 โดยไม่ต้องเข้ารับราชการกองประจำการ ได้รับหนังสือสำคัญ สด. ๘ พร้อมกับสมุดประจำตัวทหารกองหนุน ทั้งนี้เนื่องจากมิได้มีสถานะทหารกองเกินแล้วจึงไม่ต้องรับหมายเรียกและไม่ต้องไปรับการตรวจเลือก แต่อาจถูกเรียกพลในฐานะทหารกองหนุนได้ ซึ่งการเรียกพลนี้มิได้เรียกทุกคน ผู้มาเข้ารับการตรวจเลือก หากไม่สามารถใช้สิทธิ์ผ่อนผัน จะถูกกรรมการตรวจเลือกแบ่งออกเป็น 4 จำพวก ได้แก่ คนที่มีร่างกายสมบูรณ์ดี ไม่สมบูรณ์ดีแต่ไม่ถึงกับทุพพลภาพ คนที่ไม่แข็งแรงพอที่จะรับราชการทหารในขณะนั้นได้ เพราะป่วยและไม่สามารถรักษาให้หายได้ใน 30 วัน พิการ ทุพพลภาพ หรือ มีโรคที่ไม่สามารถรับราชการทหารได้ ตามกฎกระทรวงดังกล่าวบุคคลที่จะรับราชการทหารได้ต้องมีขนาดรอบตัว 76 เซนติเมตรขึ้นไปเวลาหายใจออก และสูงตั้งแต่ 146 เซนติเมตรขึ้นไป แต่ทางทหารจะได้ประกาศอีกครั้งในแต่ละปี ว่าจะคัดบุคคลที่มีขนาดใดขึ้นไป ซึ่งมักจะสูงกว่ามาตรฐานที่กำหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตั้งแต่ พ.ศ. 2516 ในช่วงระยะเวลานั้นชายไทยที่อยู่ในอายุเกณฑ์ทหารอาจยังมิได้มีขนาดร่างกายเช่นในปัจจุบัน วิธีการคัดเลือกจะเลือกจากคนจำพวกที่ 1 ก่อน หากคนจำพวกที่ 1 ไม่พอให้เลือกจากคนจำพวกที่ 2 ด้วย หากคนจำพวกที่ 2 ไม่พอให้นำคนที่ผ่อนผันอยู่มาคัดเลือกด้วยตามขั้นตอนข้างต้น (แบ่งเป็น 4) จำพวก หากมีคนเกินกว่าจำนวนที่ทางทหารต้องการให้จับสลาก โดยแบ่งออกเป็บใบดำและใบแดงซึ่งเขียนแผนกของกองประจำการไว้ เป็นที่มาของการจับใบดำใบแดง ผู้จับได้ใบแดงต้องเข้ารับราชการทหารในกองประจำการ โดยจะได้หมายนัดเข้ารับราชการทหาร (สด. ๔๐) คนจำพวกที่ 3 และ 4 ในการตรวจเลือกจะไม่ถูกส่งตัวเข้ากองประจำการ คนจำพวกที่ 3 ให้มาตรวจเลือกในคราวถัดไป เมื่อคณะกรรมการตรวจเลือกแล้วยังเป็นคนจำพวกที่ 3 อยู่ 3 ครั้งให้งดเรียก คนจำพวกที่ 3 เมื่อมาตรวจเลือกจะได้ใบสำคัญสำหรับคนจำพวกที่ 3 (สด. ๔) ส่วนคนจำพวกที่ 4 ได้รับใบสำคัญสำหรับคนจำพวกที่ 4 (สด. ๕) บุคคลที่ไม่ใช้สิทธิ์ผ่อนผัน ผ่านการตรวจเลือกแล้ว และผลการตรวจเลือกถึงที่สุดแล้วไม่ต้องเข้ารับราชการกองประจำการไม่ต้องรับหมายเรียกและไม่ต้องมาตรวจเลือกอีกในปีต่อไป ส่วนผู้ที่ผ่อนผันอยู่ต้องมาตรวจเลือกทุกปีจนกว่าอายุจะครบ 30 ปี ทุกคนต้องได้รับใบรับรองผลการตรวจเลือก สด. ๔๓ ในวันตรวจเลือกจากกรรมการตรวจเลือกเท่านั้น หากได้รับในวันอื่นหรือจากบุคคลอื่นให้สันนิษฐานว่าเป็นของปลอม ผู้นำไปใช้มีความผิดตามกฎหมาย และถือว่าผู้นั้นไม่ได้มาเข้ารับการตรวจเลือกอย่างถูกต้อง