วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ไทย!!!"วิกตฤ"!!!! "จิตสำนึก" (อินทรีย์เมฆาเรียบเรียง)




ต้องยอมรับว่า การพัฒนาศักยภาพด้านจิตใจอันหมายถึงการปลูกฝังจิตใต้สำนึก ระลึกถึงการกระทำความดีงาม เอาใจใส่ผู้อื่น มีจิตอาสาช่วยเหลือสังคม นั้น

จะต้องเกิดจากกระบรวนการเสี่ยมสอนจากบุคลากรภายในครอบครัวเป็นหลัก ซึ่งก็จะต้องควบคู่ไปกับการสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับเด็ก อย่างเข้าใจเด็ก

แต่ด้วยในสถานะการภาวะในปัจจุบัน เยาวชนไทย กำลังเดินไปตามกระแสแฟชั่นที่ฟุ่มเฟือยไร้ความรู้ น้อยคุณประโยชน์

โดยเฉพาะการเลือกเสพสื่อข่าวสารต่างๆ ที่เด็กยังขาดวุฒิภาวะพินิจพิจาร จนกลายมาการกระทำที่ผิดๆ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อๆกันไปแก่คนรอบข้าง ทั้งยังมีอิทธิพลสูงสุดต่อการปรับเปลี่ยนจิตใจคน

ผลกระทบต่อมา เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิดไปในทางที่ไม่ถูกต้อง จึงนำพาให้เด็ก ไม่เคารพเชื่อฟังครอบครัวอย่างควรจะเป็น

รักอิสระมากขึ้นจนเกินไป อันเป็นหนทางแห่งความก้าวร้าวต่อผู้คนในสังคมเพิ่มขึ้นต่อไปอีก สิ่งเหล่านี้ จึงยังเรื่องที่หน้าเป็นห่างซึ่งยังคงดำรงค์อยู่ในปัจจุบันและจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

 ด้านการศึกษา ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งแก่เด็กและเยาวชนไทย แต่ทว่าทำไมโอกาสทางการศึกษาไทยซึ่งได้ตั้งความหวังไว้ว่าจะสามารถเสริมสร้างบุคลากรพลเมืองดีของประเทศ

เพื่อเติบโตขึ้นมาร่วมขับเคลื่อนพัฒนาสังคมนั้น ปัจจุบันใยโอกาสทางการศึกษาของเยาวชน

จึงกำลังลดน้อยลงมากไปอีกเรื่อยๆเช่นกัน เป็นเช่นนี้แล้ว อนาคตของชาติบ้านเมือง

ที่หมายถึงความเจริญสุจริต จะเป็นอย่างไรในอนาคต หากเด็กไทยยังขาดสภาวะความเป็นผู้นำที่ยั่งยืน ขาดแรงพลักดันจากผู้ใหญ่ และขาดผู้สนใจรับฟังความคิดเห็นด้านการพัฒนาสังคมของเด็กๆ

ที่จะช่วยให้เขาได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ อันจะเป็นการพัฒนาทักษะความสามารถด้านการพัฒนาชาติให้เขาด้วยอีกแนวทางหนึ่ง มีบางคำตอบเกิดขึ้นว่า

 " "มันขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ทั้งหมด แก่กว่ามักบ้าอำนาจ ไม่มีเหตุผล"

แต่จะขอแนะว่า เมื่อรู้ดังนี้แล้ว ก็ต้องอย่าลืมในสิ่งที่ตนเองได้พูดไว้ที่นี้ ในวันนี้ คืออย่าให้เด็กในอนาคตได้ย้อนกลับมาพูดเช่นนี้กับคุณได้

ขอเป็นกำลังใจคับ แต่บางครั้งการคิดเช่นนี้ก็อาจไม่ถูกก็ได้

เพราะบางทีผู้ใหญ่เองก็ยังขาดความร่วมมือจากเด็กอีกเหมือนกัน แม้จะรู้ดีว่า เด็ก คือ อนาคตของชาติ แต่ก็อย่าลืมว่า ผู้ใหญ่ ก็ยังคือ อนาคคตของเด็ก เช่นกัน


ถ้าทั้ง2ฝ่ายให้ความร่วมมือใยดีกัน ก็เชื่อว่า แสงสว่างแห่งความเจริญของชาติคงอยู่ไม่ไกล